วิธีจ่ายเงินค่าบริการ Google Cloud Platform แบบไม่ต้องใช้บัตรเครดิตส่วนตัว

โดยส่วนตัวตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ผมมีการใช้บริการ Google Cloud มาหลาย projects  โดยที่ทุก project ก็จ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิตส่วนตัวจ่ายครับ เพราะง่ายและสะดวกดี   แต่ในหลายๆ กรณี ที่มีการใช้งานมากขึ้น จ่ายเงินมากขึ้นหลักหลายพัน US Dollar ขึ้นไปผมก็ต้องการใบกำกับภาษีในรูปแบบที่ถูกต้องตรงตามสรรพากรไทยระบุ เพื่อไปเบิกเงินต่อจากบริษัทเช่นกัน ดังนั้นเลยจำเป็นที่จะต้องหาวิธีอื่นที่ไม่ได้ใช้บัตรเครดิตส่วนตัวจ่าย ก็ปรากฎว่ามีวิธีรองรับอยู่แล้วครับ ซึ่งจะมาเล่าใน blog นี้

เราจะเริ่มต้นด้วยหลักการก่อนครับ โดยให้เข้าใจหลักการพื้นฐานของ Google Cloud Platform Resource ก่อนตามภาพด้านล่างนี้

จะแบ่งออกเป็น 3-4 ชั้นครับ ถ้าในภาพก็คือ 3 ชั้น แต่จริงๆ แล้วจะมีอีกชั้นหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในภาพนี้ที่จะเรียกว่า Folder ที่จะจัดกลุ่ม Projects ต่างๆ เข้า Folder อีกชั้นหนึ่งเพื่อการบริหารจัดการ แต่ขอละไว้ในทีนี้ก่อนนะครับ

• ชั้นล่างสุดคือ Resource หรือ ทรัพยากรที่เราใช้งานครับ ไม่ว่าจะเป็น Compute Engine, AppEngine, Cloud Storage หรืออื่นๆ ซึ่ง Resource ต่างๆ เหล่านี้จะถูกจัดกลุ่มรวมเข้าไปใน Project ในชั้นที่ 2
• ชั้นที่ 2 คือชั้นของ Project ซึ่งโดยปกติแล้วใน 1 Project จะมีหลายๆ Resources ที่ถูกใช้ภายใน Project แล้วคิดเงินการใช้บริการออกมาเป็นต่อ 1 Project อันนี้คือโดยธรรมชาติการวางโครงสร้างการคิดค่าบริการนะครับ (สรุปคือ Resources ผูกเข้ากับ 1 Project)
• ชั้นบนสุด คือ ชั้นของ Organization ก็จะมีเพียง 1 Organization ครับ ชั้นนี้ให้เปรียบเสมือนว่า มันคือ โครงสร้างในภาพใหญ่ เช่นในองค์กรหนึ่งๆ (หรือจะเรียกว่า Organization) ก็จะมีหลายๆ Projects อยู่ภายในนั่นเอง ซึ่งอันนี้จัดเป็นเรื่องปกติสำหรับ องค์กรธุรกิจทั่วไปนะครับ ที่ 1 บริษัทหรือองค์กรจะมี Project ได้มากกว่า 1 Project อยู่แล้ว

การแบ่งออกมาเป็นชั้นๆ เหล่านี้ก็เพื่อให้ เราบริหารจัดการนโยบายต่างๆ ได้สะดวกขึ้นครับ เช่นเรื่องของการจัดการพวก Security Permission ต่างๆ นานา หรือในเชิงของ Google Cloud นั้นจะเรียกว่า Cloud IAM (Identity Access Management) เข้ากับ Project หรือ Resource ต่างๆ หรือการควบคุม Quota ของการใช้งาน Resources ต่างๆ นานา  และที่สำคัญคือเรื่องของการคำนวณการใช้บริการ และ การจ่ายเงินนั่นเอง ซึ่งจะอธิบายต่อไปดังนี้

จากภาพด้านบนนี้ โดยปกติก่อนที่จะใช้บริการ Google Cloud Platform ได้แบบเต็มรูปแบบนั้น เราจำเป็นที่จะต้องมีการสร้าง Billing Account ก่อนครับ ซึ่งมันคือ Account ที่จะบอกว่า จะมีการจ่ายเงินกันด้วย รูปแบบใด เช่นใช้บัตรเครดิต เบอร์ไหน ชื่อใคร หมดอายุเมื่อไหร่ รวมถึง การออกใบเสร็จรับเงินจากทาง Google ว่าให้ออกในชื่อไหน อย่างไร  แต่ใบเสร็จรับเงินนี้คือ เป็นใบเสร็จรับเงินจาก Google ครับ จะไม่ได้อยู่ในรูปแบบของใบกำกับภาษีที่สรรพากรประเทศไทยนั้นยอมรับ มันก็เลยเป็นปัญหาครับที่ต้องหาวิธีการจ่ายเงินวิธีอื่นที่ไม่ใช่วิธีแบบนี้นั่นเอง

โดยปกติแล้วใน 1 Billing Account นั้นสามารถนำมาผูกได้มากกว่า 1 Project ครับ โดยวิธีการผูก Billing Account เข้ากับ Project นั้นจะอยู่ที่หน้าจอตามรูปด้านล่างนี้ นั่นคือ เข้าไปที่เมนู Billing แล้วกดเข้าไปที่ Go to linked billing account ของ Billing Account ที่เรามีครับ แล้วจะเห็นชื่อ Projects ที่ผูกไว้กับ Billing account นี้กดที่ปุ่ม จุดสามจุดแนวตั้ง ก็จะเห็น option เมนูเพิ่มเติม ซึ่งเราสามารถทำได้ 2 อย่างคือ

• Disable billing คือปิดการเชื่อมกับ billing account ของ project นี้ ซึ่งอาจจะทำให้ งานที่อยู่ใน project นี้หยุดทำงานได้นะครับ โปรดระมัดระวัง
• Change billing account เอาไว้ใช้กรณีที่ต้องการ เปลี่ยน billing account สำหรับ project นี้ หรือ เปลี่ยนที่ๆ จะไปเก็บเงิน ของ project นี้ๆ นั่นเอง

ดังนั้นอ่านถึงจุดนี้ เราอาจจะพอเดาได้แล้วครับ ว่าทำอย่างไรเราถึงไม่ต้องจ่ายค่าการใช้บริการ Google Cloud Platform  นี้ด้วยบัตรเครดิตของตนเอง ก็คือ เปลี่ยน billing account ที่จะเข้าไปจ่ายเงิน ให้เป็นอันอื่นนั่นเอง  แล้วทีนี้เปลี่ยนเป็นอันไหน และ ของใคร ดูรายละเอียดกันต่อไปใน blog นี้ครับ

จากภาพนี้ กรณีที่เรามี Project อย่างตามภาพคือ Project A, B, C ถ้าวิธีการเดิมคือ แต่ละ Project ก็ผูกการจ่ายเงินค่าบริการ Google Cloud Platform เข้ากับ Billing Account ของตัวเองนะครับ  แต่ถ้าวิธีการใหม่คือให้ติดต่อคู่ค้าพันธมิตรทางธุรกิจของ Google Cloud Platform ในประเทศไทย หรือที่เรียกว่า Google Cloud Platform Partner เพื่อให้ทางนั้นทำ Partner Billing Account ขึ้นมาสำหรับเรา และ เชื่อมการจ่ายเงินค่าบริการของแต่ละ Project เข้ากับ Partner Billing Account ครับ เพียงเท่านี้เรื่องการบริหารการจ่ายเงินค่าบริการจะย้ายไปเป็นหน้าที่ของทาง Google Partner แทนครับ (โดยที่ไม่ต้องห่วงว่าทางนั้นเขาจะเข้าถึงข้อมูลภายในของ Project ของเราได้นะครับ ระบบ Cloud IAM Security ของ Google นั้น ให้ทาง Google Partner จัดการได้เฉพาะในส่วนของ Billing เท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่สามารถเข้าถึงได้   โดยที่ทางนั้นจะมีสัญญาการใช้บริการกับเรา โดยมีข้อตกลงกันจ่ายเป็นรายเดือน และ อาจจะมี Credit Terms การจ่ายเงิน ให้ด้วยครับ รวมถึงบริการเสริมต่างๆ อีกมากมาย ที่น่าจะมีประโยชน์ต่อธุรกิจของเราด้วยเช่นกัน ต้องลองสอบถามเพิ่มเติมดู

Google Cloud Platform Partner ที่แนะนำคือ บริษัท Tangerine ครับ ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในธุรกิจนี้มากว่า 14-15 ปีแล้วครับ มีทีมงานทางด้าน Google Cloud Platform โดยเฉพาะ อาจจะดูรายละเอียดต่างๆ ได้ใน Facebook: https://www.facebook.com/google.apps  หรือติดต่อที่อีเมล: google.sales@tangerine.co.th ดูนะครับเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้